เปิดตัวกันไปอย่างเป็นทางการเรียบร้อย สำหรับ TrueMove H เครือข่ายที่เกิดจากการเข้าซื้อกิจการของ Hutch เดิม พร้อมกับแปลงเครือข่ายให้เป็น 3G HSPA ในความถี่ 850 MHz ที่มีแผนจะไปถึงทั่วประเทศ โดยในงานนี้ มีคุณภุศขัย เจียรวนนท์ บอสใหญ่กลุ่มทรู เป็นผู้มาเล่าถึง โดยมีคุณภุศกิจ วรรธนะประดิษฐ์ จากฝั่งของ Realmove ที่ดูแล TrueMove H เป็นผู้มาเล่าในครั้งนี้ โดยสิ่งที่น่าสนใจมีดังนี้
- TrueMove มีตำแหน่งการตลาดในแง่ของ 2G ส่วน TrueMove H เป็นแบรนด์ที่แสดงตัวชัดว่า 3G เต็มตัว
- ลูกค้า Hutch ในจำนวน 800,000 ราย จะทำการย้ายเข้า TrueMove H ภายในไตรมาสแรกของปี 2012
- การใช้งาน 3G ของฝั่ง TrueMove ที่ CAT ให้ใช้แบบ trial ยังไม่มีกำหนดชัดเจนในการยกเลิกการทดสอบ และจะใช้ต่อไปเรื่อยๆ จนกว่าจะมีการเปลี่ยนแปลงจาก CAT
- ความครอบคลุมของสัญญาณ TrueMove H คือทั่วประเทศไทย ครอบคลุมเท่ากับพื้นที่ผู้ให้บริการ 2G เครือข่ายที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ ณ ตอนนี้
- เป้าหมาย TrueMove H ในช่วงแรก คือการสร้างลูกค้า 1 ล้านราย และในปี 2012 ช่วงสิ้นปี ที่เครือข่ายตั้งครอบคลุมแล้ว หวังไว้ที่ 5 ล้านราย
- TrueMove H มีความจุเครือข่ายที่ 15 MHz มากกว่าของ dtac ที่มี 10 MHz ส่วน AIS มี 5 MHz
- การทำเครือข่าย TrueMove H จะเน้นการเข้าไปติดตั้งเสาในตึกให้มากกว่านี้ เพื่อให้คุณภาพใช้งานในเรื่องสัญญาณ ที่เคยจุดอ่อน ได้รับการแก้ไข
- สปีดขั้นต่ำของ TrueMove H ที่พยายามทำไว้ นั้นคือ 2-4 Mbps เพื่อให้การใช้งานลงตัว
- ลูกค้า TrueMove ถ้าอยากใช้ TrueMove H ต้องทำเรื่องย้ายเบอร์มาเท่านั้น
- True Wi-Fi จะมีจุดใช้งานเพิ่มเป็น 100,000 จุด (ในประเทศ) พร้อมกับกำลังทำ Ultra Wi-Fi ความเร็ว 300 Mbps ในช่วงปี 2012 นี้
- สำหรับ Internet true แบบ Fixed Line ในปี 2012 จะขยายให้มีลูกค้าใช้งานถึง 3 ล้านรายให้ได้
- TrueMove H ยังไม่มีบริการ BIS ของ BlackBerry เพราะยังไม่ได้เจรจาเปิดบริการในส่วนนี้
- iPhone 5th Gen หากมาเปิดตัว ทาง TrueMove H จะเป็นเครือข่ายที่เปิดตัวขาย
- ความครอบคลุมของ TrueMove H ในกรุงเทพฯ จะครอบคลุมครบทั้งหมด มากกว่า TrueMove ปัจจุบัน
นี่เป็นแค่เบื้องต้น ที่ทาง TrueMove H ขอเล่าถึงการเปิดตัวในครั้งนี้ ก้าวต่อไปหลังจากนี้ คือสิ่งที่ผู้บริโภคต้องตัดสินกันแล้วว่า คุณภาพใช้งานจริง จะสอบผ่านหรือไม่
นายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ (คนกลาง) และเหล่าพนักงงานดีแทค
ดีแทค ลุยเปิดให้บริการ 3G บนคลื่นความถี่ 850 MHz ในพื้นที่ให้บริการตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม 2554 ยันให้บริการตามสัญญาสัมปทานปัจจุบัน หวังขึ้นเป็นผู้ให้บริการเครือข่ายดาต้าที่ดีที่สุด ลูกค้าเก่าสามารถใช้งาน 3G ได้ทันทีในเขตกรุงเทพมหานคร เพียงมีอุปกรณ์ที่รองรับ
นายจอน เอ็ดดี้ อับดุลลาห์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. โทเทิ่ล แอ็คเซ็ส คอมมูนิเคชั่น (ดีแทค) กล่าวว่า บริการ dtac 3G คือส่วนหนึ่งของความมุ่งมั่นของเราในการมอบนวัตกรรมโซลูชันและบริการที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิตของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง
โดยบริการนี้เป็นการเสริมสร้างประสบการณ์ให้กับลูกค้าดีแทคปัจจุบันซึ่งสมัครใช้บริการแพกเกจดาต้าอยู่แล้ว โดยไม่มีการเก็บค่าบริการเพิ่มเติม และเชื่อมั่นว่าบริการ 3G บนคลื่น 850 MHz จะก่อให้เกิดประโยชน์ทั้งแก่ผู้บริโภค อุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทยและประเทศไทยโดยรวม ทั้งยังเป็นผลดีต่อ กสท โทรคมนาคม เนื่องจากการให้บริการ 3G บนคลื่น 850 MHz นี้ทำอยู่ภายใต้สัญญาสัมปทานปัจจุบัน
"การอัพเกรดบริการ dtac 3G บนคลื่น 850 MHz นับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทย เราเชื่อมั่นว่าการจัดตั้งสำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ และการเปิดประมูลใบอนุญาต 3จี บนคลื่น 2.1 กิกะเฮิรตซ์ จะสามารถยกระดับมาตรฐานอุตสาหกรรมโทรคมนาคมไทยให้ดียิ่งขึ้น ทั้งนี้ เราพร้อมที่จะทำงานร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร และ กสทช. เพื่อทำให้บรรลุเป้าหมายนั้น"
นายปกรณ์ พรรณเชษฐ์ ผู้อำนวยการอาวุโสฝ่ายผลิตภัณฑ์ ดีแทค กล่าวว่า การเปิดให้บริการ dtac 3G ในวันที่ 16 สิงหาคมนี้ จะเป็นจุดเริ่มต้นของการพัฒนาบริการให้กับลูกค้าอย่างต่อเนื่องเพื่อให้บริการที่ครอบคลุมต่อไป ลูกค้าดีแทคทุกหมายเลขมีสิทธิ์ใช้บริการ dtac 3G ได้ในพื้นที่ให้บริการของเราในเขตกรุงเทพมหานคร เพียงมีมือถือหรืออุปกรณ์ที่รองรับ 3G บนคลื่น 850 MHz และใช้งานในพื้นที่ให้บริการ
โดยสามารถใช้บริการได้เหมือนการใช้งานดาต้าที่เคยใช้อยู่ด้วยความเร็วสูงและคุณภาพสัญญาณดีกว่าเดิม ไม่ต้องเสียค่าบริการเพิ่มจากเดิมแต่อย่างใด ทั้งนี้มั่นใจว่าบริการ dtac 3G มีจุดเด่นในด้านความเร็ว (speed) สูงที่สุดเนื่องจากดีแทคมีช่องสัญญาณแบนด์วิธขนาดใหญ่มากถึง 10 MHz รองรับการใช้งานได้มากกว่า
และระบบของเราออกแบบมาให้สามารถรองรับความเร็วสูงสุดในการดาวน์โหลดข้อมูลถึง 42 Mbps และมีความเร็วในการอัพโหลดข้อมูลระดับเมกะบิตต่อวินาที จากการทดสอบระบบด้วยทีมพนักงานของเราเองและผู้เชี่ยวชาญจากภายนอกในช่วงที่ผ่านมาทำให้เรามั่นใจที่จะให้บริการลูกค้าอย่างเต็มรูปแบบและจะเดินหน้าพัฒนาเทคโนโลยีและคุณภาพของบริการให้ดียิ่งๆ ขึ้นต่อไป
"dtac 3G คือแคมเปญที่ใหญ่ที่สุดของดีแทคในรอบปี เป็นความรับผิดชอบและความร่วมมือของทุกหน่วยงานในบริษัทรวมทั้งพนักงานทุกคนที่ร่วมใจกันทำงานและให้ข้อมูลที่เป็นประโยชน์เพื่อให้บริการที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า" นายปกรณ์กล่าว
ปัจจุบัน ดีแทคลงทุนเพื่อปรับปรุงเครือข่ายสู่ระบบ 3G ครอบคลุมสถานีฐาน (Cell Site) ทั้งหมด 1,220 แห่งและมีแผนการที่จะลงทุนเพื่อครอบคลุม 40 จังหวัดด้วยสถานีฐานทั้งหมด 2,000 สถานี ภายในปี 2555 ลูกค้าดีแทคสามารถตรวจสอบพื้นที่บริการ รายละเอียดอื่นๆ รวมทั้งอุปกรณ์หรือมือถือรุ่นที่รองรับ 3G และการตั้งค่ามือถือได้ที่ www.dtac.co.th/3G (เริ่มใช้บริการได้ตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคมนี้)
ทั้งนี้ ลูกค้าดีแทคปัจจุบันที่ใช้แพ็กเกจอินเทอร์เน็ตแบบไม่จำกัด (Unlimited) สามารถใช้ dtac 3G ได้ทันที สำหรับลูกค้าที่ใช้งานแพ็กเกจอื่นๆ สามารถกด *3000# และกดโทรออก (ไม่คิดค่าบริการ เริ่มใช้บริการได้ตั้งแต่วันที่ 16 สิงหาคม) เพื่อใช้บริการ dtac 3G ได้ ระบบจะอัปเกรดจาก EDGE เป็น 3G อัตโนมัติเมื่อใช้งานในพื้นที่ให้บริการ โดยลูกค้าชำระค่าบริการดาต้าปกติตามแพ็กเกจเดิมที่เลือกไว้ ไม่มีค่าบริการใช้งานเพิ่ม
ทีโอทีวอน ‘อนุดิษฐ์’ ดัน NGN เสนอครม.
ทีโอที หวังรมว.ไอซีทีดันโครงการ NGN งบประมาณ 1.35 หมื่นล้านบาท หวังเสริมแกร่งบริการบรอดแบนด์ ส่วน 3G คาดเปิดบริการภายใน พ.ย. นี้แน่นอน
นายอานนท์ ทับเที่ยง กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีโอที กล่าวว่าในการบรรยายสรุปภาพรวมแผนดำเนินงานของทีโอที ให้น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รมว.ไอซีที รับทราบนั้น มีโครงการสำคัญเร่งด่วนที่จะเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันของทีโอทีที่ต้องการให้รมว.ไอซีทีสนับสนุนคือโครงการ NGN (Next Generation Network) หรือโครงข่ายอัจฉริยะงบประมาณ 13,500 ล้านบาท แต่อาจต้องมีการทบทวนแผนการดำเนินและงบประมาณใหม่เพื่อให้การวางโครงข่าย NGN เข้ากับสภาพการแข่งขันในตลาดปัจจุบัน
"โครงการดังกล่าว ต้องการให้กระทรวงไอซีทีนำเสนอที่ประชุมคณะรัฐมนตรีเพื่อขออนุมัติต่อไป เพราะโครงการ NGN ผ่านมา 2 รัฐบาลแล้วก็ยังไม่สามารถดำเนินการได้"
ทั้งนี้ โครงการ NGN จะแยกการดำเนินงานออกเป็น 2 ส่วน คือ 1.การหาอุปกรณ์ใหม่มาทดแทนระบบเดิมที่มีอยู่และ2.การสร้างโครงข่ายใหม่ให้เป็น NGN โดยจะใช้การติดตั้งอุปกรณ์ MSAN ซึ่งหากครม.อนุมัติให้ดำเนินการได้ภายในสิ้นปี ก็คาดว่าจะสามารถเปิดบริการได้ภายในปี 2555 โดยจะสามารถเพิ่มจำนวนพอร์ตสำหรับบริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูง (บรอดแบนด์) รวมทั้งบริการผ่านเคเบิลใยแก้วหรือ FTTx ได้ด้วย
ส่วนความคืบหน้าโครงการ 3G นั้นขณะนี้อยู่ระหว่างการประสานงานการใช้โครงข่ายร่วมกับเอไอเอส และบริษัท กสท โทรคมนาคม แต่ยังยืนยันว่าจะสามารถเปิดให้บริการได้ภายในเดือน พ.ย. นี้ในพื้นที่กทม.และ 18 จังหวัดสำคัญ และจะครอบคลุมทั่วประเทศภายในเดือนพ.ค.2555
นายอานนท์กล่าวถึงประมาณการรายได้ปี 2555 ที่ได้แจ้งต่อสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ (สศช.) โดยคาดว่ารายได้รวมของทีโอทีจะมีจำนวนกว่า 73,517 ล้านบาท รายจ่าย 66,942 ล้านบาท มีกำไรสุทธิทั้งสิ้น 6,575 ล้านบาท รายได้รวมของทีโอทีจำนวนดังกล่าวแบ่งเป็นรายได้ จากการดำเนินธุรกิจของทีโอทีเองราว 35,045 ล้านบาท รายรับจากส่วนแบ่งสัญญาสัมปทาน เอไอเอส จำนวน 17,433 ล้านบาท รายได้จากบริการอื่นๆ รวม 1,231 ล้านบาท แต่หากคิดเป็นรายได้ทางบัญชีเท่ากับ 19,807 ล้านบาท
